FreeLance บ้าเที่ยว ตอน ชวนแฟนมาสัมผัสความเป็นโมร็อกโกกัน

    Marrakesh Hua-Hin Resort & Spa ตั้งอยู่บนพื้นที่3ไร่ มีห้องสวีททั้งหมด76ห้อง เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ทำให้เรารู้สึกหลงไหลเป็นอย่างมาก ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงอแฟริกาก็ทำให้เราได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นโมร๊อกโคที่ผสมผสานกับความทันสมัยในยุคปัจจุบัน

     

    เพราะหัวหินอยู่ใกล้แค่คิดถึง..
    เราจึงเลือกมาพักผ่อนในวันครบรอบ2ปีกันที่นี่

     

    ลืมบอกครับว่าในแต่ละอาคารของโรงแรมจะมีชื่อที่แตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งห้องพักของเราจะอยู่อาคารที่มีชื่อว่า

     

    ด้วยบรรยากาศและการตกแต่งที่เหมาะมากที่จะจูงมือคนรักมาสัมผัส ได้นอนในห้อง Suite พร้อมทั้งได้ซึมซับกลิ่นอายของความเป็น Morocco อีกด้วย

    ไม่เคยจะคิดเลยครับว่าโรงแรมที่เราขับรถผ่านแทบจะทุกครั้งเมื่อมาเที่ยวหัวหิน เห็นทางเข้าโรงแรมที่ดูธรรมดาๆ แต่พอได้เข้ามาเห็นด้วยตาจริงๆมันทำให้เราถึงกับร้องโอ้โหหกันเลยทีเดียว…. อารมณ์เหมือนได้หลุดไปเที่ยวทะเลอีกฝั่งของโลก

     

    ด้วยรูปทรงการออกแบบของโรงแรม เมื่อเราเลี้ยวรถเข้ามา เราก็จะตะลึงกับทางเดินเข้าแบบนี้

     

    ก็เพราะว่าการออกแบบ ตกแต่ง และดีไซน์เกือบจะทุกอย่างภายในโรงแรมให้เป็นในแบบของ Morocco มันเลยทำให้เราคิดแบบนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของโรงแรม มันทำให้เราอยากจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปซะทุกที่ เอาตรงๆก็คือ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากอ่ะ

     

    ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนๆ ก็อดใจไม่ได้ที่จะแชะภาพเก็บไว้

     

    ตั้งแต่ Lobby ตลอดทางเดินไปจนถึงห้องพัก นี่ยังไม่รวมมุมที่อยู่ติดกับหาดและมุมที่อยู่บริเวณสระว่ายน้ำเลยนะเนี๊ย บอกเลยว่าทุกพื้นที่ของโรงแรมยังคงความเป็นโมร๊อกโคไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเลยทีเดียว เป็นการมาพักผ่อนที่ได้เสพทั้งความโรแมนติกและได้เสพศิลปะไปพร้อมๆกัน

     

    อ่า..และแล้วก็มาถึงห้องพักของเราซะที เป็นType Oceanfront Suite เปิดห้องออกมาแทบร้องกรี๊ด ฮ่าๆ คือเป็นห้องที่ดูดีมาก กว้างและมีมุมใช้สอยเยอะดี โดยเฉพาะอ่างจากุสซี่ที่ตั้งอยู่ในห้องเลย

    ในแต่ละมุมของห้องตกแต่งแบบอลังมากๆ ซึ่งผนังของห้องจะเป็นปูนแบบฉาบเรียบทาด้วยสีแดงอมส้ม

    มี Welcome เป็นผลไม้และซ็อคโกแลตอีกด้วย

    เดินมาสำรวจที่โซนริมหาด ก็จะเจอบาร์สวยๆแบบนี้ เย็นนี้เรามีนัดดิ้งและดินเนอร์กันที่นี่

    ความเป็นโมร็อกโคมีอยู่ทุกมุมของโรงแรมจริงๆ

    ตามด้วยเครื่องดื่มอีกสองชนิดก็คือ Djinn Cocktail และ Prince of Persia ตามด้วยเมนูอาหารที่ทางโรงแรมแนะนำอย่าง Moroccan Tagine – เนื้อแกะตุ๋นเครื่องเทศสไตล์โมร็อคแคน เสิร์ฟ พร้อมข้าวคูสคูส และ Chef 's Salad – เชฟสลัดอะโวคาโด ไข่ดาวน้ำบลูชีส เสิร์ฟ พร้อมน้ำสลัดมาราเกช

    ต่อด้วย Pad Thai Poo Nim ผัดไทยปูนิ่ม และ Al Bahr Pizza พิซซ่าหน้ากะเพราทะเล+ชีสมอซซาเรลล่า ทิ้งท้ายด้วยเมนูของหวานที่หน้าตาดูเหมือนหอยเม่นที่ชื่อว่า Sea Urchin

    บรรยากาศชิลและโรแมนติกมาก เหมาะกับการจูงมือแฟนมานั่งเป็นที่สุด

    การมาพักผ่อนที่หัวหินครั้งนี้และเลือกมาพักผ่อนที่นี่ เป็นอะไรที่ได้มากกว่าการพักผ่อน ไม่คิดว่าหัวหินจะมีมุมที่มีสไตล์แหวกแนวไปจากโรงแรมอื่นๆแบบชัดเจนเช่นนี้ ใครกำลังมองหาที่พักผ่อนแบบคู่รัก หรือแนวครอบครัว บอกเลยครับว่าที่นี่เหมาะสุดๆ

     

    ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook Fan Page: wanderaroundthailand 

    อ่านฉบับเติมได้ที่ >>> คลิก